Monday, January 8, 2007




What have I done?

หลังจากลาออกจากตำแหน่งขุนนางมานั่งกินนอนกินได้สักระยะเริ่มเกิดอาการเหม็นเบื่ออยากกลับไปทำงานทั้งที่แต่ก่อนเกลียดนักเกลียดหนา ไม่อยากอยู่เวร ไม่อยากพูดกับผู้ฟังที่ไม่รู้เรื่องเพราะขี้เกียจอธิบาย เอาเข้าจริงไอ้การนอนเลื้อยไปมาเป็นสิ่งที่น่าเบื่อยิ่งกว่า หากคนเราตายได้ด้วยปุ่มกดทำลายตัวเองแล้วแปรเปลี่ยนเป็นอากาศธาตุผสมกับบรรยากาศโลกโดยที่คนข้างหลัง(พ่อ แม่ พี่ น้อง และเพื่อนสนิทเป็นอาทิ-ไม่ใช่คนที่ทำอะไรข้างหลังเรา)ต้องโศกาอาดูลย์ ฉันคงจะกดเป็นปฐมฤกษ์เพื่อให้หายไปจากโลกนี้เสียที แต่มันไม่ง่ายอย่างนั้นนะสิ!

จะมีสักกี่คนที่เลือกทำในสิ่งที่ตัวเองชอบได้โดยไม่ต้องแคร์ใคร เท่าที่เห็นก็มีแต่พวก celebs ที่ออกงานสังคมและปรากฏตัวตามหน้าหนังสือ Hello, Okay หรือส่งสัญญาณภาพและเสียงมาตามรายการ สุริวิภา หรือ บางกอก gossip ฉันนี่โคตรอิจฉา! ตอนนี้เลยอยากเป็น celebs กับเขาบ้าง




Anyway,หลังจากขับรถกลับจากศรีสะเกษมางานศพอาก๋ง,ไปเที่ยวเชียงใหม่ชมงานพืชสวนโลก,ไปเวียงปาย,แม่ฮ่องสอน,ลำพูน,ลำปาง,เชียงราย ; ตอนนี้ฉันได้ย้ายก้นมาสิงสถิตย์ที่ boston USA.




ทำไมต้องมาเมริกา


1.สันดานอยากเที่ยวกำเริบเพราะไม่ได้ออกนอกประเทศเลยในช่วงเกือบ 2 ปีที่ผ่านมา


2.อยากหาที่เงียบๆค้นหาตัวเองว่าต้องการอะไร-อีป๊อปมันถามว่าทำไมต้องจ่ายแพงขนาดนี้เพียงแค่อยากค้นหาตัวเอง-ให้กลับไปดูข้อ 1


3.ถือโอกาสมาเยี่ยมอากู๋และแฟนอากู๋หลังจากไม่ได้เจอกันมานานกว่า 5 ปี


4.อยากคุยกับรุ่นพี่ที่มาเรียนหมอที่นี่และที่กำลังเดินสายสัมภาษณ์จะได้เก็บเป็นข้อมูลว่าจะสอบ USMLE หรือไม่


5.มีคนออกค่าตั๋วเครื่องบินและค่าที่พักให้ ฮิฮิ




ฉันออกเดินทางในวันคริสต์มาส อีฟ ประมาณ 4:20 P.M. ใช้เวลาเิดินทางประมาณ 25-26 ชั่วโมง(รวมเวลา transit 2 ที่คือ ฮ่องกง และ LA)ไปเมริกาช่วงนี้น่าเบื่อมากเพราะพี่แกตรวจเข้มกับข้าวของที่เอาขึ้นเครื่อง น้ำหอม,ยาสีฟัน หรือ อะไรก็ตามที่เป็นครีม น้ำและโฟมเป็นของต้องห้ามสืบเนื่องจากสามารถเอามาทำเป็นชนวนระเบิดได้ สมควรแล้วที่มันจะกลัวเพราะเสือกทำกับคนอื่นไว้เยอะ




แม้จะไม่ได้รักสนามบินสุวรรณภูมิแต่ก็ไม่ถึงกับเกลียดเพียงแต่รู้สึกว่ามันไม่ได้ดีเริ่ดเหมือนที่คุยเอาไว้ อีกอย่างจะมี king power duty free มากมายไปทำไม
oh! my god,what's happening to me and my blog.ฉันกำลังโหลดรูปลง blog แต่มันไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่ฉันต้องการ
รูปแรกคือรูปปั้น กูรมาวตาร เป็นอวตารปางหนึ่งของพระนารายณ์ เริ่มจากเทวดาไม่อยากตายเลยคิดกวนน้ำอมฤตไว้ดื่มกิน วิธีการคือเอาเขาพระสุเมรเป็นแกน วานพญานาควาสุกรีเป็นเชือกพันเขา ฝ่ายเทวดาจับหางนาค ฝ่ายอสูร(เทวดาชวนมาโดยมีอามิสคือจะแบ่งน้ำอมฤตให้ดื่มแต่เอาเข้าจริงก็ไม่ให้-เลวมะ)จับหัว ที่ถือหัวก็เป็นอุบายของเทวดาอีก เพราะพญานาคจะเหนื่อยเวลาโดนฉุดโดนรั้งไปมาและพร้อมที่จะคายพิษได้ทุกเมื่อ ผลก็คือกว่าจะกวนเสร็จอสูรตายไปล้านเจ็ดแถมไม่ได้น้ำอีก-น่าสงสารเนอะ
ลักษณะกวนไม่เหมือนกวนกระยาสารทนะ แต่เป็นการปั่นมากกว่า ที่นี้ปั่นกันมันส์จนโลกเริ่มเป็นรูพระนารายณ์เห็นท่าไม่ดีจึงอวตารมาเป็นเต่าเพื่อเป็นฐานรองเขาพระสุเมรไม่ให้เจาะลึงลงไปถึง the core โลกจึงอยู่รอดมาจนถึงทุกวันนี้-เวอร์ดีเนอะ
อีกรูป-เป็นรูปฉันเองถ่ายเงาจากกระจกขณะนั่งรอขึ้นเครื่อง
เดี๋ยวขอไปศึกษาเรื่องการ post รูปก่อนแล้ววันหลังจะเขียนเล่าเรื่องอีก


No comments: